สตาร์ทอัพไทยกับการผนึกกำลังช่วยประเทศฝ่าวิกฤติ COVID-19
Riki Kimura
Digital Marketing Executive at Wisible
เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์โควิด-19ในประเทศไทยกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งหลังจากการระบาดรอบแรกในช่วงปีที่แล้ว (2020) ซึ่งในตอนนั้นทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนก็ได้ร่วมมือกันจัดการการระบาดให้ลดน้อยลง และควบคุมให้สถานการณ์กลับมาอยู่ในสภาวะที่ทำให้ทุกคนคลายกังวลได้
ในตอนนั้น กลุ่ม Tech Start Up ของไทยได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในการช่วยภาครัฐรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่แต่ละคนต่างมีความถนัดมาวางระบบและสร้างเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดระยะเวลาในการบริหารจัดการเคสของบุคลากรทางการแพทย์ ตอนนั้นเองที่โปรเจคใหญ่ของกลุ่มสตาร์ทอัพไทยถือกำเนิดขึ้นด้วยชื่อ “เป็ดไทยสู้ภัย”
ซึ่ง Wisible เองก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจค ด้วยการนำเอาระบบ CRM ไปใช้เพื่อให้บุคคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ได้เห็นภาพรวมของผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างเรียลไทม์ ทำให้ลดระยะเวลาในการทำงานและสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่ด่านหน้าสามารถไปทำหน้าที่อื่นที่สำคัญกว่าต่อได้
และในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อเกิดการระบาดขึ้นอีกระรอกจนทำให้ผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักขึ้น จากที่เราคิดกันว่าสถานการณ์ในประเทศไทยคงจะเริ่มดีขึ้นก็กลับกลายเป็นแย่ลง เป็ดไทยสู้ภัยจึงกลับมาช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระงานให้บุคลาการทางการแพทย์สามารถจัดการเคสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การกลับมาของเป็ดไทยสู้ภัยในครั้งนี้ Wisible เองก็ยังคงนำสิ่งที่เราถนัดมาใช้ในการช่วยงานภาครัฐ ซึ่งเราได้เริ่มต้นด้วยการเข้าไปช่วยโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในส่วนของโรงพยาบาลสนาม (Chula Field Hospital) อีกทั้งยังมีพันธมิตรอีกหลายเจ้าเข้ามาช่วยกันให้ระบบเกิดขึ้นจนใช้งานได้จริง
ซึ่งการทำงานของเราในครั้งนี้ นำทีมโดย Que Q ในการลีดโปรเจค ซึ่ง Wisible ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดเก็บข้อมูลและ Tracking สถานะผู้ป่วยตั้งแต่เริ่มเข้ามา เพื่อให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เห็นถึงภาพรวมและสามารถบริหารจัดการแต่ละเคสได้อย่างทันท่วงที ซึ่งข้อมูลของผู้ป่วยก็ได้มาจาก AIYA ที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลจากช่องทางต่าง ๆ และ Horganice ที่ดูเเลเรื่องระบบจองเตียง จากนั้นเมื่อบุคลากรทางการแพทย์ได้เห็นภาพรวมผ่าน Wisible แล้ว ระบบก็จะประมวลผลเพื่อจัดทำเป็น Dashboard รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ป่วยเข้า-ออกในโรงพยาบาลแต่ละวัน จำนวนเตียงที่ว่าง และสามารถคาดการณ์ความสามารถในการรองรับผู้ป่วยได้ ซึ่งในส่วนนี้ YDM Thailand เป็นผู้รับไม้ต่อประสานงานส่งข้อมูลผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาต่อไป
ปลายทางของการร่วมมือกันนี้จะทำให้ข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละรายสามารถถูกส่งต่อไปให้แพทย์ผู้รักษาแต่ละคนได้อย่างเป็นระบบ ไม่มีตกหล่น โดยสามารถแยกตามผังเตียงและระยะเวลาในการเข้ารักษาได้
จากการร่วมมือกันของ Tech Startup ในนามเป็ดสู้ภัยครั้งนี้ จะเห็นได้ชัดว่าเครื่องมือต่าง ๆ ที่นำมาใช้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของเทคโนโลยี เพราะในโลกดิจิทัลที่ตอนนี้ทุกอย่างหมุนไปอย่างรวดเร็ว การรับมือกับสภาวะวิกฤติโดยใช้แรงงานคนก็ไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป เพราะฉะนั้นแล้ว Wisible เองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเครื่องมือให้กับเจ้าหน้าที่และบุคคลากรการแพทย์หน้าด่านจะช่วยให้สามารถจัดการและรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที และทำให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้นในเร็ววัน
Wisible เองก็ขอให้ทุกท่านดูแลและรักษาสุขภาพตัวเองกันเยอะ ๆ นะคะ หมั่นล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่างระหว่างกัน หรือถ้าหากต้องการส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องก็สามารถทำได้ผ่านทางแฟนเพจเป็นไทยสู้ภัยด้วยเช่นกันค่ะ
ติดตามข่าวสารและสาระดีๆเกี่ยวกับระบบ CRM Platform ได้ที่นี่
