เลือก CRM อันไหนดี? ถึงจะมีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับสินค้าเคมีภัณฑ์
Riki Kimura
Digital Marketing Executive at Wisible
คงปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า โลกธุรกิจในยุคนี้นั้นเรียกได้ว่า มีการแข่งขันที่สูงเสียดฟ้า หากคุณเป็นหนึ่งในนักธุรกิจมือใหม่ที่พึ่งกระโดดเข้ามาในตลาดนี้ล่ะก็ บอกเลยว่าอาจจะมีเหนื่อยกันบ้าง ดังนั้นการเลือก CRM อันไหนดี? จึงสำคัญและจำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณอย่างมาก
ด้วยจำนวนคู่แข่งที่เยอะทั้งในไทยและต่างประเทศ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ปูมาแล้วอย่างดีและยาวนาน เจ้าเก่าที่เคยอยู่มาก่อนหน้านี้ ก็เรียกได้ว่าแทบจะครองเปอร์เซ็นต์ตลาดกันไปตั้งนานแล้ว ทำให้การแข่งขันในสภาพธุรกิจแบบ Red Ocean หรือตลาดของธุรกิจที่มีคู่แข่งเยอะ หรือมีคู่แข่งที่ทำธุรกิจในรูปแบบเดียวกันจำนวนมาก เรียกได้ว่าแทบจะลากเลือดกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าพูดถึงอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุด ยากที่สุด และเป็นเหมือนกับถนนขรุขระ ที่ไม่ว่ารถคุณจะหรู รถจะแรงแค่ไหน ก็มีโอกาสแหกโค้งได้ง่าย ๆ เลย นั่นก็คือธุรกิจเคมีภัณฑ์ และธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเคมีภัณฑ์ ซึ่งเราคิดว่าเป็นธุรกิจที่นายทุนหลาย ๆ คนอาจจะสนใจอยากเริ่มลงทุนกัน หรือบางท่านอาจจะลงทุนไปแล้ว ถ้างั้นในวันนี้เดี๋ยวเราจะพาไปดูพร้อมกันเลยว่า เราต้องรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับธุรกิจตัวนี้
แน่นอนว่าเราไม่ได้แนะนำแค่ให้คุณรู้จักกับมันมากขึ้นเท่านั้น! แต่วันนี้เราจะทำให้คุณได้รู้อีกด้วยว่า ควรจะเลือก CRM อันไหนดี อีกหนึ่งเครื่องมือทางธุรกิจที่มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะมองข้าม แต่ขอบอกเลยว่าถ้าคุณได้รู้จักกับมันแล้ว คุณจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น และเอาชนะคู่แข่งแบรนด์อื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายแน่นอน
ธุรกิจเคมีภัณฑ์ คืออะไร?
ก่อนที่เราจะไปเลือกว่าจะใช้ CRM อันไหนดี เรามารู้จักกับธุรกิจนี้กันให้ถ่องแท้ก่อนดีกว่า จะได้ตัดสินใจถูก ว่าจะลงทุนในตลาดนี้ดีไหม หรือจะได้เข้าใจตรงกันว่า “ธุรกิจเคมีภัณฑ์” นั้นหมายถึงอะไร
ธุรกิจเคมีภัณฑ์ หมายถึง การผลิต นำเข้า ส่งออก สินค้าที่เป็นสารเคมีภัณฑ์ โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการนำสารเคมีภัณฑ์ที่คุณผลิตหรือนำเข้า ไปผลิตเป็นอุปกรณ์ สินค้า สิ่งของ หรือวัสดุที่ทางโรงงานต้องการ
ซึ่งหน้าที่ของคุณก็ไม่ได้มีแค่การขายของเท่านั้น แต่ยังต้องควบคุมคุณภาพสินค้าให้ดีอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะผลิตเองหรือนำเข้ามา คุณภาพก็เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพื่อที่ลูกค้าจะได้มั่นใจในแบรนด์ของคุณและกลายเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งถือเป็นฝันของเซลส์เลยก็ว่าได้
CRM คืออะไร? มีประโยชน์ต่อสินค้าเคมีภัณฑ์อย่างไร?
มาถึงพาร์ทที่หลาย ๆ คนรอคอย สำหรับการแนะนำว่า CRM อันไหนดี ไม่ว่าคุณจะเป็นเซลส์ เจ้าของกิจการ หรือเป็น IT ที่ถูกมอบหมายหน้าที่ให้มามองหาซอฟแวร์ดี ๆ ไปใช้ในองค์กร เราเชื่อว่าคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ผ่านหูผ่านตากันมาบ้างไม่มากก็น้อย สำหรับ CRM หรือ Customer Relationship Management ระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า
สำหรับธุรกิจแทบจะทุกรูปแบบ การหาลูกค้าใหม่นั้นยากกว่าการรักษาลูกค้าเก่าเสมอ ดังนั้นเจ้าของกิจการหลายๆ ท่านจึงเลือกวิธีการรักษาลูกค้าเก่า เปรียบเสมือนกับแฟนคนปัจจุบัน ซึ่งดีอยู่แล้วก็รักษาเอาไว้ให้ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปเริ่มต้นใหม่ โดยเฉพาะกับสินค้าประเภทเคมีภัณฑ์ ที่เหมือนกับคนที่เอาแต่เรียนแล้วก็กลับบ้าน ชาติไหนจะหาแฟนได้ล่ะเนี่ย
กลุ่มลูกค้าของธุรกิจเคมีภัณฑ์แทบจะ 100% เป็นโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอย่างที่เรารู้กัน ว่าโรงงานเหล่านี้มีอำนาจต่อรองที่สูงมาก ๆ เนื่องจากเป็นโรงงานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศ ที่นอกจากจะติดต่อยากแล้ว ตอนจ่ายเงินก็ยากเช่นเดียวกัน ด้วยความที่ลูกค้าต่างชาติเป็นบริษัทขนาดใหญ่ พวกเขาจึงมีอำนาจการต่อรองที่สูงกว่าเราหลายเท่าตัว และสามารถเครดิตได้สูงสุดนานถึง 6 เดือนกันเลยทีเดียว
ดังนั้นการใช้ระบบ CRM เข้ามาช่วยจึงสำคัญอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าคุณจะโดนเครดิตนานจากลูกค้ารายใหญ่ แต่คุณก็สามาถรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้ารายย่อยให้กลายเป็นลูกค้าประจำของคุณได้เช่นกัน แล้วคุณก็จะมีเงินทุนที่จะนำไปหมุนเวียนในกระบวนการผลิตของคุณต่อไปนั่นเอง
ประโยชน์ของ CRM ต่อธุรกิจเคมีภัณฑ์
อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า CRM นั้นคือซอฟแวร์ที่จะเข้ามาช่วยรักษาความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้า ซึ่งเราคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเคมีภัณฑ์ของคุณที่สุดแล้ว ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ที่เราได้กล่าวไป ธุรกิจประเภทนี้มักจะโดนเครดิตจากลูกค้ารายใหญ่ ในระหว่างที่รอลูกค้ารายใหญ่จ่ายเงินนั้น หากคุณมีลูกค้ารายย่อยที่เป็นลูกค้าประจำอยู่ข้าง ๆ คุณก็จะสามารถดำเนินธุรกิจของคุณต่อไปได้อย่างราบรื่น
รักษาลูกค้าประจำ
ธุรกิจเคมีภัณฑ์ยังเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถหาลูกค้าเยอะ ๆ ได้ภายในเดือนเดียว ด้วยเหตุผลข้างต้นอย่างการโดนเครดิต แถมธุรกิจนี้ยังมีความเฉพาะทาง โรงงานในไทยส่วนใหญ่จึงมีเจ้าประจำที่ซื้อขายกันตลอด สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่า คนซื้อน้อยกว่าคนขาย ทำให้การมีลูกค้าประจำนั้นถือได้ว่าเป็นลาภอันประเสริฐเลย เมื่อเซลส์สามารถหาลูกค้าได้สักเจ้าแล้ว นอกจากจะต้องปิดการขายให้สำเร็จ ยังต้องใช้ CRM ในการเข้าไปดูแลลูกค้าอีกด้วย (CRM อันไหนดี ที่สามารถดูแลลูกค้าได้เดี๋ยวเราไปดูกันย่อหน้าต่อ ๆ ไป) เพื่อให้ลูกค้ามีความไว้เนื้อเชื่อใจและตัดสินใจเป็นลูกค้าประจำ
ตีสนิทกับลูกค้ารายย่อย
แต่ก็ใช่ว่าเราจะใส่ใจเฉพาะลูกค้ารายใหญ่จ่ายหนักเท่านั้นนะ เพราะธุรกิจก็จำเป็นต้องมีลูกค้ารายย่อยที่สามารถจ่ายเงินได้แบบไม่ต้องรอเครดิตนานเช่นเดียวกัน โดย CRM ก็สามารถเข้ามาช่วยคุณในส่วนตรงนี้ได้ ด้วยระบบการแบ่งประเภทลูกค้า ให้คุณสามารถ tracking และดูแลลูกค้าได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ
เพียงแค่คลิกเข้ามาภายในซอฟแวร์ CRM คุณก็จะมองเห็นเลยว่า ลูกค้ามีกี่คน คนไหนรายใหญ่ คนไหนรายย่อย ตารางงานการนัดคุยกับลูกค้า รวมไปถึงการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เพื่ออัพเดทสถานะลูกค้าอีกด้วย
บริหารจัดการระบบสินค้าได้อย่างง่ายดาย
หลาย ๆ ครั้งเมื่อคุณเสนอสินค้าไปแล้ว ล็อคสินค้าไว้แล้วว่าจะขายให้เจ้านี้ คุยกันอย่างดิบดี สุดท้ายลูกค้าบอก “พี่ไม่เอาละ” ในวินาทีสุดท้าย สิ่งนี้เราเชื่อว่าเกิดขึ้นกับเซลส์หลาย ๆ คน ผลเสียของมันไม่ใช่แค่เสียเวลาและเสียรายได้เท่านั้น แต่คุณยังพลาดโอกาสที่จะนำสินค้าที่คุณเสนอ ไป Deal กับลูกค้าท่านอื่น ๆ อีกด้วย
ซึ่งหากจะไปแก้ที่ลูกค้าก็คงจะเป็นไปไม่ได้ CRM จึงเข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ ให้คุณสามารถ Tracking สินค้าแต่ละตัวได้แบบเรียลไทม์ ว่าสินค้าตัวไหนที่ขายแล้ว ตัวไหนยังไม่ขาย หรือสินค้าตัวไหนที่โดนยกเลิก การทำแบบนี้จะช่วยให้คุณสามารถติดตาม และวางแผนการขายสินค้าในครั้งต่อ ๆ ไปได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ตั้งเป้าหมายการขายสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สินค้าประเภทเคมีภัณฑ์หลาย ๆ ครั้งเราไม่ได้คิดเป็นถัง หรือคิดเป็นชิ้น ทำให้เมื่อคุณกลับมามองตัวเลขและพยายามจะคำนวณต้นทุนกำไร อาจจะยากและสับสนได้ ด้วยความที่หากคุณมีสินค้าหลากหลายชนิด การจะติดตามกำไรของสินค้าแต่ละตัวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะมานั่งจดก็ดูจะเสียเวลาเกินไป
แต่ระบบ CRM สามารถรายงานยอดขายสินค้าได้ ว่าสินค้าตัวไหนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า สินค้าตัวไหนเฉย ๆ และสินค้าตัวไหนที่คิดว่าพอเถอะ โดยคุณสามารถแบ่งประเภทของสินค้าเพื่อดูภาพรวมได้อีกด้วย
ทุนหนา กำไรบาง
วัตถุดิบ ค่าจ้างคนงาน ค่าการดูแล ค่าใช้จ่ายสารพัดสารเพ ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจของคุณนั้นจำเป็นต้องมีเงินก้อนมหาศาล ในขณะเดียวกันกำไรจากการขายสินค้าก็ไม่ได้เยอะเยอะมากมายอะไรขนาดนั้น หากคุณไม่ได้มีลูกค้าประจำที่จะซื้อทุกเดือน หรือสามารถหาลูกค้าใหม่ได้ทุกเดือน ธุรกิจของคุณอาจจะมีสะดุดบ้าง
แถมด้วยความที่เงินทุนเยอะ แต่กำไรได้น้อย หากคุณพลาดขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว อาจจะเกิดภาวะขาดทุนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการพลาดจากการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง ต้นทุนที่ไม่สเถียร และอีกหลาย ๆ ปัจจัย
ทำให้คุณต้องให้ความสำคัญกับการใช้งาน CRM อย่างมาก เพราะระบบ CRM จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถติดตามทุกขั้นตอนได้อย่างละเอียด ตั้งแต่ต้นทุนของสินค้าแต่ละตัว รายจ่ายประจำเดือนต่าง ๆ กำไรของสินค้าแต่ละตัว ยอดขาย
อีกทั้งยังใช้ในการบันทึก Deal ของลูกค้าได้อีกด้วย ทำให้คุณสามารถติดตามการค้าขายของคุณได้แบบไม่ต้องมานั่งจำเอง หรือแม้กระทั่งช่วยให้ทีมมองเห็นภาพรวมของ Sale Pipeline ในแต่ละขั้นตอน ด้วยฟังก์ชั่นเหล่านี้ ระบบ CRM จะช่วยลดโอกาสที่เกิดข้อผิดพลาดได้เป็นอย่างดีเลย
ช่วยให้การสต็อกของของคุณนั้นไร้ข้อผิดพลาด
แน่นอนว่าการสต็อกของ คืออีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น หากคุณสต็อกของผิด หรือสต็อกของไม่พอต่อความต้องการของลูกค้าแล้วล่ะก็ เรียกได้ว่านั่นคือหายนะครั้งใหญ่เลยก็กว่าได้ เพราะแทนที่คุณจะได้ลูกค้า คุณกลับทิ้งโอกาสนั้นไปเลยต่อหน้าต่อตา
ซึ่ง CRM ก็สามารถจัดการระบบการสต็อกของของคุณให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นได้ โดยการบันทึกข้อมูลสินค้าที่มีอยู่ สินค้าที่ขายไปแล้ว ต้นทุนของสินค้าแต่ละตัว นอกจากจะช่วยให้การสต็อกของคุณดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการขาดทุน และการจำต้นทุนไม่ได้อีกด้วย เนื่องจากเรารู้ว่าการมีสินค้ามีหลาย ๆ ตัว จะให้มานั่งจำต้นทุนทุกตัวก็คงยาก ถ้าได้ซอฟแวร์ดี ๆ ซักตัวอย่าง CRM เข้ามาช่วยน่าจะมีประโยชน์มาก ๆ
สรุป CRM อีกหนึ่งซอฟแวร์ที่ช่วยให้ขาจรกลายเป็นลูกค้าประจำ
หากคุณกำลังสงสัยว่าจะใช้ CRM อันไหนดี เราขอแนะนำซอฟแวร์ The Revenue Acceleration Platform ของ Wisible หรือ CRM รูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งที่จะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญและช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณนั้นง่ายขึ้นหลายเท่าตัว
แนะนำ The Revenue Acceleration Platform หรือ CRM รูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร
หากคุณสงสัยว่าจะเลือกใช้ CRM อันไหนดี และสนใจการใช้งานของ CRM ที่เราได้แนะนำไปเมื่อข้างต้นแล้วล่ะก็ ทาง Wisible อยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับอีกหนึ่งซอฟแวร์ CRM ที่แตกต่างจากซอฟแวร์อื่น ๆ อย่างมาก ด้วยความที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มีการอัพเดทฟังก์ชัน พัฒนากันอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด และผลิตโดยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับธุรกิจ B2B โดยเฉพาะ คุณจึงสามารถมั่นใจได้เลยในเรื่องของฟีเจอร์และความสะดวกสบายต่าง ๆ ที่ครบครันในการใช้งาน
CRM จากทาง Wisible คือ โปรแกรม The Revenue Acceleration การใช้งานโปรแกรมนี้ นอกจากจะมีฟีเจอร์ที่ครบครันแล้ว ยังมีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI ที่ผนวกเข้ากับการดึงข้อมูลจาก Big Data ให้เข้ามาช่วยประมวลผล สามารถแสดงผลลัพธ์เป็นกราฟ และวางแผนการทำงานให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลมาป้อนเอง เพราะซอฟแวร์ตัวนี้เขาจัดการให้คุณแบบครบวงจร
Wisible เราได้คัดสรรและพัฒนาซอฟแวร์มาเป็นอย่างดี เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่า จะสามารถดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์การใช้งานของเซลส์ และวางแผนระบบการทำงานของธุรกิจเคมีภัณฑ์ของคุณในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง