7 สุดยอด Productivity Tool เพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี

ถ้าหากคุณเป็นผู้ประกอบการที่กังวลว่าจะสามารถเพิ่มผลิตภาพของธุรกิจในเวลาสั้นๆ ได้หรือไม่ เนื่องจากในปัจจุบันมีการแข่งขันมากขึ้นเรื่อยๆ การที่คุณมีผลิตภาพสูงจะช่วยการันตีว่าคุณจะโดดเด่นในธุรกิจ ดังนั้น การใช้เครื่องมือทางการตลาดเพื่อเอาชนะคู่แข่งจึงเป็นสิ่งจำเป็น

เครื่องมือเพิ่มผลิตภาพ หรือ Productivity tool แบบใช้งานบนหน้าเว็บไซต์มีประโยชน์อย่างมากต่อทั้งบริษัท startup และบริษัทที่มั่นคงแล้ว เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยบริษัทเล็ก ๆ ในการจัดกระบวนการทำงาน ทำงานบางอย่างโดยอัตโนมัติ พัฒนาการสื่อสาร ออกใบแจ้งหนี้ที่มีประสิทธิภาพ และทำการตลาดออนไลน์

เครื่องมือต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท startup ของคุณเป็นอย่างมาก

บทความที่เกี่ยวข้อง: ระบบ Customer Relationship Management (CRM) คืออะไร และทำไมเจ้าของกิจการควรสนใจ

1. Trello

ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณจะต้องทำอะไรก่อนหรือหลังเวลาที่คุณต้องบริหารจัดการงานที่สำคัญหลายๆ อย่างพร้อมกัน Trello น่าจะช่วยได้มาก Trello เป็นเครื่องมือบริหารจัดการงานที่จะช่วยให้คุณสามารถติดตามว่ากำลังทำงานอะไรอยู่บ้างและใครเป็นผู้รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Trello สามารถสร้างบอร์ดและการ์ดได้หลากหลาย ตั้งกำหนดวันส่งงาน ใส่โน้ตที่สำคัญ ฯลฯ เป็นเครื่องมือเพื่อการบริหารโครงการที่ทำอะไรได้หลายอย่างอีกทั้งมีความยืดหยุ่น ฟีเจอร์สำคัญๆ ของ Trello คือ Big Picture/Projects, NextActions, Agile Board, Editorial Calendar รวมไปถึงเทมเพลตแบบต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย ในอีกแง่หนึ่ง Trello ก็กำลังมุ่งจะสร้างทีม SEO ที่มีผลิตภาพสูงสำหรับบริษัทออนไลน์

Trello เป็นซอฟต์แวร์/แอพที่ใช้งานได้ฟรีและจำเป็นต่อทีมเล็ก ๆ มาก คุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ Trello ก็ต่อเมื่อคนในทีมของคุณเพิ่มมากขึ้น

ช่างเป็นเครื่องมือที่ทำให้แอดมินและผู้บริหารมีความสุขเสียจริง

(https://trello.com)

2. Asana

Asana เป็นเครื่องมือบริหารขั้นตอนการทำงานและโครงการที่จะช่วยให้โปรเจ็กต์ใหญ่น้อยดำเนินไปอย่างราบรื่น ประสิทธิภาพของ Asana ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่คนนิยมนำมาช่วยสร้างและจัดการงานต่างๆ ที่มีจำนวนไม่จำกัด

นอกจาก Asana จะถูกออกแบบมาให้ทีมใช้และติดตามงานของพวกเขาแล้ว มันยังถูกนำมาใช้เพื่อการบริหารที่คล่องแคล่วว่องไว, การทำรายงาน, การทำงานร่วมกัน, การทำ to-do-list, การสื่อสารกันภายในทีม และทำหน้าที่เป็นปฏิทินของโปรเจ็กต์ หนึ่งในฟังก์ชั่นการใช้งานที่สำคัญของ Asana คือ คุณสามารถสร้างเทมเพลตสำหรับชุดงานเดิมโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำแล้วซ้ำอีก Asana ใช้งานง่าย โดยคุณเพียงแค่ต้องคลิกเม้าส์ ลาก และวางงานชิ้นต่าง ๆ และระบบค้นหาขั้นสูงของ Asana ก็ยิ่งทำให้ Asana มีประโยชน์มากขึ้น

ประหยัดเวลาด้วย Asana และอย่าปล่อยให้ตัวเองเผลอลืมงานบางงานไป

(https://asana.com)

3. Google Calendar

Google Calendar เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวและโปรไฟล์สาธารณะหลังจากที่สร้างบัญชีของ Google แล้วได้ เครื่องมือจะทำให้บริษัทสามารถจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้ในเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเองได้
Google Calendar มีฟีเจอร์สำคัญ 5 ข้อที่ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ดังต่อไปนี้

1. แนบไฟล์สำหรับการประชุมได้
2. ผู้ใช้สามารถส่งคำเชิญได้โดยตรงจากขั้นตอนการสร้างอีเว้นท์
3. ตัวเลือก “ค้นหาช่วงเวลา” ช่วยให้คุณสามารถหาเวลานัดประชุมได้ในช่วงเวลาที่ว่าง
4. Google Calendar สามารถเชื่อมกับ Google Maps เพื่อระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นัดใน Google Calendar
5. คุณสามารถเพิ่มปฏิทินอื่น ๆ ด้วยได้

คุณไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเลย คุณสามารถใช้มันได้โดยเข้าผ่านหน้าเว็บ

(https://calendar.google.com)

4. Evernote

Evernote เป็นซอฟท์แวร์เครื่องมือ/แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาเพื่อจดโน้ต จัดการโน้ต และจัดเก็บโน้ต มันสามารถซิงค์โน้ตในแต่ละเครื่องให้ตรงกันได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถติดแท็ก เขียนคำบรรยายประกอบ แก้ไข ใส่ความคิดเห็น ค้นหา และ export เป็นส่วนหนึ่งของโน้ตบุ๊กได้ ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ Evernote มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น

• แนบเอกสาร
• จัดระเบียบโดยใช้ตาราง
• นำเสนอไอเดีย
• ตัดบทความจากเว็บไซต์
• ซิงค์โน้ตของคุณ

ลองใช้สิ มันอาจจะเป็นสิ่งที่พลิกชีวิตคุณก็ได้

(https://evernote.com)

5. Hootsuite

หากคุณคิดว่าการบริหารจัดการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องยากแล้วล่ะก็ ให้คุณสร้างบัญชีของ Hootsuite แล้วลืมความกังวลพวกนั้นไปได้เลย ทุกวันนี้ คุณไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของโซเชียลมีเดียได้ ทำให้ยิ่งจำเป็นต้องบริหารมันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้ซอฟท์แวร์ต่างๆ Hootsuite เป็นหนึ่งในแอพพลิเคชั่นทรงพลังที่จะทำให้คุณสามารถบริหารจัดการโพรไฟล์ Twitter, Facebook, Google+, Instagram, YouTube และ LinkedIn ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำไมคุณถึงควรจะเลือกใช้ Hootsuite แทนที่จะเป็นเครื่องมือตัวอื่นๆ น่ะหรือ นี่เป็นคำถามสำคัญเลยเพราะแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ก็โฆษณาว่ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใกล้เคียงกัน ฟีเจอร์ต่อไปนี้คือสิ่งที่ทำให้ Hootsuite เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบริหารจัดการโปรไฟล์โซเชียลมีเดีย

• มันมอนิเตอร์หลายๆ สตรีมจากที่ที่เดียว
• ความสามารถในการบริหารจัดการทีมของ Hootsuite นั้นดีกว่าเจ้าอื่นมาก
• Hootsuit บริหารการดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพใน Twitter
• หากคุณต้องการโพสต์ในเพจ Google+ ของคุณ Hootsuite จะช่วยให้คุณทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ
• Hootsuite นั้นใช้งานได้จากหลากหลายช่องทางอย่างแท้จริง มันสามารถใช้งานได้บนบราวเซอร์และอุปกรณ์สมัยใหม่ทุกตัว
• มันช่วยให้คุณสามารถเชื่อมบริการต่างๆ จำนวนมากเข้าไว้ด้วยกัน

ประโยชน์มหาศาลของ Hootsuite ทำให้ Hootsuite เป็น dashboard สำหรับโซเชียลมีเดียอย่างแท้จริง มาลองใช้ลองสัมผัสดูสิ

(https://hootsuite.com)

6. MailChimp

ในปัจจุบัน การตลาดผ่านอีเมลเป็นกุญแจสำคัญที่คุณจะเข้าถึงฐานลูกค้าที่คุณคาดหวังได้ และมันก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญพื้นฐานของการสร้างธุรกิจดิจิทัล ดังนั้น หากคุณต้องการเครื่องมือพิเศษสำหรับการตลาดผ่านอีเมลแล้วล่ะก็ MailChimp ต้องเป็นคำตอบหนึ่งแน่ๆMailChimp เป็นเครื่องมืออันยอดเยี่ยมที่สามารถนำมาใช้เป็นบริการการตลาดผ่านอีเมลแบบใช้งานบนหน้าเว็บ มันสามารถทำงานหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน และช่วยคุณออกแบบจดหมายข่าวทางอีเมล แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เชื่อมต่อกับบริการที่คุณใช้อยู่แล้ว และติดตามผลของคุณ สาเหตุที่ MailChimp เป็นเครื่องมีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดผ่านอีเมล คือ

• มันเป็นเครื่องมือส่ง bulk mail ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
• มันสามารถส่งเมลถึงคนได้มากกว่า เพราะเมลของคุณจะถูกมองว่าปลอดภัยและได้รับอนุญาต
• เป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
• มันใช้เทมเพลตที่สามารถปรับแต่งได้ในการออกแบบอีเมลที่ดูดีมีระดับ
• ใช้งานร่วมกับเครื่องอ่านอีเมลและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
• มันทำให้คุณรู้ได้ว่าผู้รับอ่านอีเมลของคุณหรือเปล่า

MailChimp มีฟีเจอร์สำหรับช่วยเหลือผู้ใช้และทรัพยากรที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ยังใช้ได้ฟรีตลอดไปด้วย

(https://mailchimp.com)

7. BuzzSumo

ในปัจจุบัน content marketing หรือการตลาดโดยใช้เนื้อหาเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการโปรโมทออนไลน์ ดังนั้น การกำหนดกลยุทธ์ด้านเนื้อหาก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากคุณกังวลว่าคุณจะทำแคมเปญ content marketing ที่มีประสิทธิภาพได้อย่างไร BuzzSumo เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณเสมอกล่าวโดยง่าย BuzzSumo คือ บริการ content marketing ที่สามารถติดตามเนื้อหาของเว็บไซต์ และแชร์เนื้อหาบนเว็บไซต์โซเชียลมีเดียหลักๆ ได้ ฟังก์ชั่นหลักของ BuzzSumo คือ การค้นคว้าเนื้อหา และความสามารถที่จะหาเนื้อหาที่ถูกแชร์กันมากที่สุดในหัวข้อที่คุณเลือก มันสามารถค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดได้จาก URL และสามารถระบุตัวคนสำคัญในหัวข้อหรือในธุรกิจใดๆ ก็ตาม นอกจากนี้ BuzzSumo ยังใช้กลยุทธ์การสร้างลิงค์ที่ทรงพลัง เพราะมันใช้เส้นทางการกระจายเนื้อหาและคนรู้จักของอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสร้างลิงค์และสัญญาณทางสังคมที่นำมาสู่บริษัทเรา

หากคุณต้องการวัดความสำเร็จของ content marketing ของคุณ หันมาใช้ BuzzSumo สิ

(https://buzzsumo.com)

สรุป

ตลาดดิจิทัลนั้นเต็มไปด้วยเครื่องมือจำนวนมากมายที่ออกแบบมาเพื่อหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการบริหารจัดการไปจนถึงการทำการตลาด หรือแม้กระทั่งการก่อสร้าง แต่คุณจะต้องหาให้เจอว่าคุณจะเลือกใช้เครื่องมือไหนหรือจะไม่ใช้เครื่องมือไหน หลังจากที่ค้นคว้าเป็นอย่างดีแล้ว เราพบว่าเครื่องมือด้านบนเป็นเครื่องมือที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายอย่างที่มีประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือ มันช่วยคุณประหยัดเวลา เงิน และพลังงาน

ติดตามข่าวสารและสาระดีๆเกี่ยวกับระบบ CRM Platform ได้ที่นี่

• Facebook
• Twitter
• LinkedIn